คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

  • Home
  • อารัมภบท
  • ภาคที่หนึ่ง
    • ส่วนที่หนึ่ง “ข้าพเจ้าเชื่อ” – “ข้าพเจ้าทั้งหลายเชื่อ”
      • บทที่หนึ่ง มนุษย์ “เข้าใจ” พระเจ้าได้
      • บทที่สอง พระเจ้าทรงพบกับมนุษย์
      • บทที่สาม มนุษย์ตอบสนองพระเจ้า
    • ส่วนที่สอง การยืนยันความเชื่อของคริสตชน
      • ตอนที่ 1 “ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงเนรมิตฟ้าดิน”
      • ตอนที่ 2 “ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย”
      • ตอนที่ 3 พระเยซูคริสตเจ้า “ทรงปฏิสนธิเดชะพระจิตเจ้า ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี”
      • ตอนที่ 4 พระเยซูคริสตเจ้า “ทรงรับทรมานสมัยปอนทิอัสปีลาต ทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์ และทรงถูกฝังไว้”
      • ตอนที่ 5 “พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จสู่แดนมรณะ วันที่สามทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย”
      • ตอนที่ 6 “พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ”
      • ตอนที่ 7 “แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย”
      • ตอนที่ 8 “ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิตเจ้า”
      • ตอนที่ 9 “ข้าพเจ้าเชื่อพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล”
      • ตอนที่ 10 “ข้าพเจ้าเชื่อการอภัยบาป”
      • ตอนที่ 11 “ข้าพเจ้าเชื่อการกลับคืนชีพของร่างกาย”
      • ตอนที่ 12 “ข้าพเจ้าเชื่อถึงชีวิตนิรันดร”
  • ภาคที่สอง
    • ส่วนที่หนึ่ง ระเบียบการเกี่ยวกับศีลศักดิ์สิทธิ์
      • บทที่หนึ่ง พระธรรมล้ำลึกปัสกาในช่วงเวลาของพระศาสนจักร
      • บทที่สอง การประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกปัสกา
    • ส่วนที่สอง ศีลศักดิ์สิทธิ์เจ็ดประการของพระศาสนจักร
      • ตอนที่ 1 ศีลล้างบาป
      • ตอนที่ 2 ศีลกำลัง
      • ตอนที่ 3 ศีลมหาสนิท
      • ตอนที่ 4 ศีลแห่งการคืนดีและอภัยบาป
      • ตอนที่ 5 ศีลเจิมคนไข้
      • ตอนที่ 6 ศีลบวช
      • ตอนที่ 7 ศีลสมรส
      • การประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ชนิดอื่น ๆ
  • ภาคที่สาม
    • ส่วนที่หนึ่ง มนุษย์ได้รับเรียกให้ดำเนินชีวิตในพระจิตเจ้า
      • บทที่หนึ่ง ศักดิ์ศรีความเป็นบุคคลของมนุษย์
      • บทที่สอง ชุมชนมนุษย์
      • บทที่สาม ความรอดพ้นที่พระเจ้าประทานให้ – กฎหมายและพระหรรษทาน
      • พระบัญญัติสิบประการ
    • ส่วนที่สอง พระบัญญัติสิบประการ
      • ตอนที่ 1 พระบัญญัติประการแรก
      • ตอนที่ 2 พระบัญญัติประการที่สอง
      • ตอนที่ 3 พระบัญญัติประการที่สาม
      • ตอนที่ 4 พระบัญญัติประการที่สี่
      • ตอนที่ 5 พระบัญญัติประการที่ห้า
      • ตอนที่ 6 พระบัญญัติประการที่หก
      • ตอนที่ 7 พระบัญญัติประการที่เจ็ด
      • ตอนที่ 8 พระบัญญัติประการที่แปด
      • ตอนที่ 9 พระบัญญัติประการที่เก้า
      • ตอนที่ 10 พระบัญญัติประการที่สิบ
  • ภาคที่สี่
    • ส่วนที่หนึ่ง การอธิษฐานภาวนาในชีวิตคริสตชน
      • บทที่หนึ่ง การเปิดเผยเรื่องการอธิษฐานภาวนา มนุษย์ทุกคนได้รับเรียกมาให้อธิษฐานภาวนา
      • บทที่สอง ธรรมประเพณีเรื่องการอธิษฐานภาวนา
      • บทที่สาม ชีวิตการอธิษฐานภาวนา
    • ส่วนที่สอง บทภาวนา “ข้าแต่พระบิดา” ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
      • ตอนที่หนึ่ง “สรุปพระวรสารทั้งหมด”
      • ตอนที่สอง “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์”
      • ตอนที่สาม คำวอนขอเจ็ดประการ
      • ตอนที่สี่ บทยอพระเกียรติสุดท้าย
  • ค้นหา

ส่วนที่หนึ่ง การอธิษฐานภาวนาในชีวิตคริสตชน

ส่วนที่หนึ่ง

การอธิษฐานภาวนาในชีวิตคริสตชน

 

2558   “พระธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อนั้นยิ่งใหญ่” พระศาสนจักรกล่าวถึงพระธรรมล้ำลึกนี้ในสูตรประกาศความเชื่อของบรรดาอัครสาวก (ภาคที่หนึ่ง) และเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกนี้ในพิธีกรรมศีลศักดิ์สิทธิ์ (ภาคที่สอง) เพื่อให้ชีวิตของบรรดาผู้มีความเชื่อได้สอดคล้องกับพระคริสตเจ้าในพระจิตเจ้าเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าพระบิดา (ภาคที่สาม) ดังนั้น พระธรรมล้ำลึกนี้จึงเรียกร้องให้บรรดาผู้มีความเชื่อได้เชื่อ ได้เฉลิมฉลอง และดำเนินชีวิตจากพระธรรมล้ำลึกนี้ในความสัมพันธ์ที่มีชีวิตชีวาและเป็นส่วนตัวกับพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงชีวิต ความสัมพันธ์นี้ก็คือการอธิษฐานภาวนา

การอธิฐานภาวนาคืออะไร?

        “สำหรับดิฉัน การอธิษฐานภาวนา ก็คือการยกใจขึ้น  เป็นเพียงการเพ่งมองไปยังสวรรค์ เป็นเสียงร้องแสดงความกตัญญูรู้คุณและความรักทั้งในยามทุกข์และในยามสุข”[1]


การอธิษฐานภาวนาในฐานะของประทานจากพระเจ้า

 2559  “การอธิษฐานภาวนาเป็นการยกความคิดจิตใจขึ้นหาพระเจ้าหรือเป็นการวอนขอพระเจ้าประทานให้เราตามพระทัยพระองค์”[2] เพื่ออธิษฐานภาวนาเราพูดจากอะไร? จากความยิ่งใหญ่ของเราและจากความปรารถนาอันสูงส่งของเรา หรือ “จากเหวลึก” (สดด 130:1) ของจิตใจต่ำต้อยและเป็นทุกข์? ผู้ที่ถ่อมตนลงย่อมได้รับการยกย่อง[3] ความสุภาพถ่อมตนเป็นรากฐานของการอธิษฐานภาวนา “เราไม่รู้ว่าจะต้องอธิษฐานภาวนาขอสิ่งใดที่เหมาะสม” (รม 8:26) ความสุภาพถ่อมตนเป็นการเตรียมตนเพื่อรับสิ่งที่เราวอนขอมาโดยไม่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน มนุษย์เป็นเหมือนขอทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า[4]

 2560   “หากท่านรู้จักของประทานของพระเจ้า” (ยน 4:10) ความน่าพิศวงของการอธิษฐานภาวนาได้รับการเปิดเผยริมบ่อน้ำที่พวกเรามาตักน้ำ ที่ตรงนั้นพระคริสตเจ้าเสด็จมาพบเรามนุษย์
ทุกคน พระองค์ทรงเป็นคนแรกที่มาหาพวกเราและขอน้ำดื่ม พระเยซูเจ้าทรงกระหาย คำขอของพระองค์มาจากส่วนลึกของพระเจ้าผู้ทรงปรารถนาพวกเรา ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ การอธิษฐานภาวนาเป็นการที่ความกระหายของพระเจ้าและของเรามาพบกัน พระเจ้าทรงกระหายอยากให้เรากระหายหาพระองค์[5]

 2561   “ท่านคงกลับเป็นผู้ขอ และผู้นั้นจะให้น้ำที่ให้ชีวิตแก่ท่าน” (ยน 4:10) ดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ คำภาวนาวอนขอของเรากลับเป็นคำตอบ เป็นคำตอบต่อคำวอนขอของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต “เขาได้ละทิ้งเราซึ่งเป็นพุน้ำไหล แล้วไปสกัดหินเป็นที่ขังน้ำสำหรับตน เป็นที่ขังน้ำรั่วซึ่งเก็บน้ำไว้ไม่ได้” (ยรม 2:13) เป็นคำตอบของความเชื่อต่อพระสัญญาที่จะประทานความรอดพ้นให้เปล่าๆ[6] เป็นคำตอบของความรักต่อความกระหายของพระบุตรเพียงพระองค์เดียว[7]


การอธิษฐานภาวนาในฐานะพันธสัญญา

 2562   การอธิษฐานภาวนาของมนุษย์มาจากไหน ไม่ว่าการอธิษฐานภาวนาแสดงออกมาอย่างไร (โดยท่าทางและคำพูด) ก็เป็นมนุษย์ทั้งตัวที่อธิษฐานภาวนา แต่ถ้าจะให้บอกว่าการอธิษฐานภาวนามาจากที่ใด พระคัมภีร์บางครั้งกล่าวถึงวิญญาณหรือจิต แต่บ่อยที่สุดกล่าวถึง “ดวงใจ” (มากกว่าหนึ่งพันครั้ง) ดวงใจอธิษฐานภาวนา  ถ้า “ใจ” อยู่ห่างจากพระเจ้า ถ้อยคำอธิษฐานภาวนาก็ไร้ความหมาย

 2563  ใจเป็นที่ที่ฉันอยู่ เป็นที่อาศัยของฉัน (ตามสำนวนเซมีติคของพระคัมภีร์ – เป็นที่ที่ฉัน “หลบลงไป”) เป็นศูนย์กลางที่ซ่อนเร้นของเรา ที่เหตุผลของเราหรือของผู้อื่นไม่อาจเข้าใจได้ มีแต่พระจิตของพระเจ้าเท่านั้นที่เข้าไปสำรวจและหยั่งรู้ได้ เป็นสถานที่ของการตัดสินใจ ในส่วนลึกที่สุดของความโน้มเอียงทางจิตใจของเรา เป็นที่อยู่ของความจริง เป็นที่ที่เราเลือกชีวิตหรือความตาย  ใจยังเป็นที่พบกันด้วย ดังนั้น ในเมื่อเราเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า เราจึงมีชีวิตอยู่ในความสัมพันธ์กับพระองค์ ใจจึงเป็นสถานที่ของพันธสัญญากับพระองค์ด้วย

 2564   การอธิษฐานภาวนาของคริสตชนเป็นความสัมพันธ์ของพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ในพระคริสตเจ้า เป็นกิจการของพระเจ้าและของมนุษย์ เกิดขึ้นจากพระจิตเจ้าและจากพวกเรามุ่งไปหาพระบิดาโดยตรง ร่วมกับพระประสงค์แบบมนุษย์ของพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพเป็นมนุษย์


การอธิษฐานภาวนาในฐานะความสัมพันธ์

 2565  ในพันธสัญญาใหม่ การอธิษฐานภาวนาเป็นความสัมพันธ์มีชีวิตชีวาที่บรรดาบุตรของพระเจ้ามีกับพระบิดาผู้ทรงความดีหาขอบเขตมิได้ของเขา มีกับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสตเจ้าและกับพระจิตเจ้า  พระหรรษทานของพระอาณาจักรเป็น “การพิศเพ่งพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ผู้ทรงปกครองสรรพสิ่ง […] และทรงรวมพระองค์ทั้งหมดกับจิตใจของเรา”[8] ดังนั้น ชีวิตการอธิษฐานภาวนาจึงเป็นการอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและมีความสัมพันธ์กับพระองค์จนเป็นนิสัย ความสัมพันธ์แห่งชีวิตเช่นนี้เป็นไปได้อยู่เสมอ เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าอาศัยศีลล้างบาป[9] การอธิษฐานภาวนาเป็นแบบคริสตชนในฐานะที่เป็นความสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้าและขยายกว้างออกไปทั่วพระศาสนจักรซึ่งเป็นพระกายทิพย์ของพระองค์ ขอบเขตของการอธิษฐานภาวนานี้ก็คือขอบเขตความรักของพระคริสตเจ้านั่นเอง[10]

 

[1]  Sancta Theresia a Iesu Infante, Manuscrit C, 25r: Manuscrits autobiographiques (Paris 1992) p. 389-390.

[2] Sanctus Ioannes Damascenus, Expositio fidei, 68 [De fide orthodoxa 3, 24]: PTS 12, 167 (PG 94, 1089).

[3] เทียบ ลก 18:9-14.

[4] Cf Sanctus Augustinus, Sermo 56, 6, 9: ed. P. Verbraken: Revue Bénédictine 68 (1958) 31 (PL 38, 381).

[5] Cf Sanctus Gregorius Nazianzenus, Oratio 40, 25: SC 358, 261 (PG 36, 398); Sanctus Augustinus, De diversis quaestionibus octoginta tribus, 64, 4: CCL 44A, 140 (PL 40, 56).

[6] เทียบ ยน 7:37-39; อสย 12:3; 51:1.

[7]  เทียบ ยน 19:28; ศคย 12:10; 13:1.

[8] Sanctus Gregorius Nazianzenus, Oratio 16, 9: PG 35, 945.

[9] เทียบ รม 6:5.

[10] อฟ 3:18-21.

ตัวกรอง
รายการของเนื้อหาในหมวดหมู่ ส่วนที่หนึ่ง การอธิษฐานภาวนาในชีวิตคริสตชน
หัวเรื่อง ฮิต
บทที่หนึ่ง การเปิดเผยเรื่องการอธิษฐานภาวนา มนุษย์ทุกคนได้รับเรียกมาให้อธิษฐานภาวนา ฮิต: 865
บทที่สอง ธรรมประเพณีเรื่องการอธิษฐานภาวนา ฮิต: 751
บทที่สาม ชีวิตการอธิษฐานภาวนา ฮิต: 837
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก Catechism of the Catholic Church