“เท้าของผู้นำข่าวดี(สันติภาพ)มาประกาศบนภูเขา ช่างงามยิ่งนัก” (อสย 52:7)

         คำของประกาศกอิสยาห์ให้กำลังใจ แก่ประชาชนอิสราเอลในแดนเนรเทศ  ที่ประสบความรุนแรง  การกดขี่  เสียศักดิ์ศรี และความตาย ผู้นำข่าวดีแห่งสันติภาพให้คำสัญญา  นักบุญสมเด็จพระสันตะปาปา  ปอลที่ 6 เรียกหนทางสู่สันติภาพว่า”การพัฒนาที่สมบูรณ์ “  ปัจจุบันยังมีการระบาดของโควิด   ผลการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ  สภาพแวดล้อม ความหิวโหย ฯลฯ
         สันติภาพเป็นทั้งของขวัญจากเบื้องบน และผลของการอุทิศตนทำงานสร้างโลกให้มีสันติภาพมากขึ้น  โดยเริ่มจากแต่ละคน  ความสัมพันธ์ในครอบครัว และนานาชาติ  โป๊ปฟรันซิสเสนอ 3 แนวทางสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน คือ การเสวนาระหว่างชนรุ่นต่างๆ การศึกษา และการทำงาน
         การเสวนาระหว่างชนรุ่นต่างๆ เพื่อสร้างสันติภาพ
         การเสวนาที่จริงใจ  เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ดี ต้องมีความไว้วางใจระหว่างผู้ร่วมเสวนา  วิกฤติเพิ่มขึ้น   ผู้อาวุโสและเยาวชนโดดเดี่ยว ขาดวิสัยทัศน์  การเสวนาเกิดจากการฟังซึ่งกันและกัน แบ่งปันความคิดเห็นที่แตกต่าง ตกลงใจ และก้าวเดินไปด้วยกัน
         แม้มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ก็มีแนวโน้มสร้างการแบ่งแยกระหว่างชนรุ่นต่างๆ เยาวชนต้องการปรีชาญาณและประสบการของผู้อาวุโส  ทั้งสองฝ่ายต้องมีที่ว่างให้แก่กัน อย่ายึดผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว  ต้องรู้จักประวัติศาสตร์ เพื่อรักษาบาดแผลเก่า มุ่งสู่อนาคต  เรียนรู้กันและกัน หาโอกาสสร้างสันติภาพ อาศัยการศึกษา  และการทำงาน
         การสอนและการศึกษา  เป็นพลังขับเคลื่อนสู่สันติภาพ
         การพัฒนาที่ยั่งยืน ต้องให้ประชาชนมีอิสระ  และรับผิดชอบสังคมมากขึ้น รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเพื่อการศึกษาและการใช้จ่ายทางการทหารแบบมีสัดส่วน โดยต้องลดงบด้านอาวุธ  เพื่อมาพัฒนาประชาชนและประเทศชาติ  ส่งเสริมวัฒนธรรมการเอาใจใส่การดูแลกัน  ข้อตกลงร่วมกันด้านการศึกษา  เพื่อนิเวศวิทยา เพื่อภราดรภาพ และสิ่งแวดล้อม
         การทำงานสร้างสันติภาพ
         การทำงานเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นในการรักษา  และการสร้างสันติภาพ โดยอุทิศตน  การลงทุนส่วนตัว และร่วมมือกันสร้างโลกให้น่าอยู่และสวยงาม   โควิด 19 มีผลเสียต่อตลาดแรงงาน  เศรษฐกิจเสียหาย คนตกงาน  เยาวชนขาดการศึกษา เรียนไม่จบหลักสูตร   วิกฤติเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อคนงานอพยพ และครอบครัว  เป็นเหยื่อรูปแบบต่างๆของการเป็นทาส  ขาดระบบสวัสดิการปกป้องคุ้มครอง
         การทำงานเป็นรากฐานสร้างความยุติธรรมและความเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวกันในทุกชุมชน การทำงานจำเป็นต่อชีวิต เป็นหนทางสู่การพัฒนามนุษย์  เราจำเป็นต้องรวมความคิดและแรงพยายาม เพื่อหาหนทางแก้ไข  เพื่อให้ทุกคนในวัยทำงาน มีโอกาสทำงานสร้างชีวิตของครอบครัว และสังคมโดยรวม
         ผู้นำรัฐ นักการเมือง  บรรดาบาทหลวง  และผู้มีน้ำใจดี ขอให้เราทำงานร่วมกันด้วยความกล้าหาญ  และสร้างสรรค์ เพื่อการเสวนาระหว่างชนรุ่นต่างๆ  การศึกษา  และการทำงาน เพื่อสันติภาพ
                                                                                                                                   ฟ.วีระ อาภรณ์รัตน์  แปลสรุป