เวลาสร้างบ้าน  เจ้าของมักเห็นข้อบกพร่องในการก่อสร้าง แต่ช่างหรือ ผู้รับเหมามักมีข้อแก้ตัว ไม่ยอมรับความผิด เมื่อทั้งสองฝ่ายไปขึ้นศาล  ผ่านไปเกือบปี เสียค่าใช้จ่ายที่ทะเลาะกันแพงมาก และก็ไม่มีผลอะไร ทั้งสองขอให้ผมเป็นคนกลาง

ถ้าเราไม่รู้จักยอมรับความผิด ชอบตำหนิคนอื่น ร่ายยาวความผิดของคนอื่น กลับบ้านขอใช้เวลาอธิษฐาน 30 นาที ว่า “พระเจ้าข้า โปรดเปิดตาข้าพเจ้าให้สามารถเห็นว่าข้าพเจ้ามีส่วนในปัญหานี้อย่างไร”

คืนนั้น  พระเจ้าทำงานในใจของช่างรับเหมา  เมื่อมาพบกันตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ใบหน้าเขาเปลี่ยนไป เขาขอพูดคนแรก  ยอมรับความผิดและสัญญาจะแก้ไขให้โดยเร็ว

เจ้าของบ้านประหลาดใจมากที่ได้ยินคำสารภาพเช่นนี้  จนเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ที่สุด เขาก็กล่าวว่า “จริงๆ ก็มิใช่ความผิดของคุณทั้งหมด  ถ้าผมไม่ตรงเกินไปในตอนแรก  เราก็คงไม่ต้องไปขึ้นศาล เสียเวลาตั้ งหนึ่งปี ผมผิดมากกว่าคุณเสียอีก”

ถ้าเราสังเกตดูเวลามีข้อขัดแย้ง เราเน้นข้อบกพร่องตรงไหน  มักชี้ไปที่ผู้อื่น เขาผิด ฉันไม่ผิด  เมื่อเราต้องแก้ไขข้อขัดแย้ง เราไม่ค่อ ยหันมาพิจารณาดูที่ตัวเราเป็นอันดับแรก  จึงไม่มีทางสงบสุขได้  จนกว่าเราตั้งคำถามตนเองว่า “ฉันมีส่วนทำให้เกิดข้อขัดแย้งอย่างไร”

ท่อนซุง และ เศษฟาง
เวลามีข้อขัดแย้ง เรามักโฟกัสสิ่งที่คนอื่นทำกับเรา จึงไม่ได้แก้ปัญหา  พระเยซูเจ้าทรงสอนวิธีแก้ไขปัญหา  ใน มัทธิว 7:3-5 “ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย  ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางอ อกจากดวงตาของท่านเถิด’ ขณะที่มีท่อนซุงอยู่ในดวงตาของท่าน คนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย  จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด  แล้วจะได้เห็นชัด ก่อนไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง”

พระเยซูเจ้าทรงใช้ภาพชี้แจงเราเกินจริงไปหน่อย แต่ประเด็นคือ พระองค์ต้องการให้เราดูความผิดของตนเองก่อน  เพราะท่อนซุงทำให้เราเห็นปัญหาไม่ชัด  หลักในการสร้างสันติอีกข้อหนึ่ง คือ จงเอาท่อนซุงออก

คุณอ่านคำสอนของพระเยซูเจ้าตอนนี้แล้ว อย่าด่วนสรุปว่าคุณจะไม่พูดถึงความบกพร่องของผู้อื่นอีกแล้ว พระองค์ไม่ได้ห้ามการเตือนอย่างน่ารักนะครับ จุดประสงค์คือ อย่าด่วนวิจารณ์เร็วเกินไป  หรือตักเตือนแบบผิดวิธี

พระเยซูเจ้ามิได้หมายความว่าบาปของเราเองหนักกว่า  หรือแย่กว่าของผู้อื่น แต่บาปของเราก็เป็นความรับผิดชอบของเรา  จงแก้ไขเม ื่อเราเผชิญข้อขัดแย้ง  ในฐานะคริสตชน เราจึงเน้นโฟกัสที่ความผิดของเราก่อน  ไม่ใช่เน้นบาปของคนอื่น    ดังนั้น จงถามตนเองว่า “ฉันได้ทำหรือยุแหย่ให้เกิดความผิดอะไร”

แปลสรุปจาก Resolving  Everyday Conflict  
โดย  Ken Sande  และ Kevin  Johnson, 2011, หน้า 67-70.