“ครูคำสอนคือ คนที่รักษาความจำเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงชีวิต  จำได้อย่างมีชีวิตชีวา คือ คนที่ สามารถทำให้มีชีวิตชีวาในคนอื่นได้    เป็นสิ่งที่สวยงาม  คือ จำพระเจ้าได้

เหมือนพระนางพรหมจารีมารีย์ ผู้เห็นกิจการมหัศจรรย์ ของพระเจ้าในชีวิตของพระนาง  แต่มิได้คิดถึงเกียรติ อภิสิทธิ์  หรือ  ความร่ำรวย  แม่พระมิได้คิดถึงตนเอง แต่หลังจากรับสารจากทูตสวรรค์  และพระบุตรปฏิสนธิในครรภ์  แม่พระทำอะไรแม่พระออกไป ไปช่วยนางเอลีซาเบ็ธ  ญาติของเธอ ที่ตั้งครรภ์ด้วย  และสิ่งแรกที่แม่พระกระทำเมื่อพบนางเอลีซาเบ็ธ  คือ ระลึกถึงงานของพระเจ้า ความซื่อสัตย์ของพระเจ้า  ในชีวิตของแม่พระเอง  ในประวัติศาสตร์ของชาติของพระนาง ในประวัติศาสตร์ของเรา  “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ... เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์  ...พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย” (ลก 1:46,48,50)  บทถวายพระพรของพระนางมารีย์ บรรจุความจำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ส่วนตัว ประวัติศาสตร์ของพระเจ้ากับพระนาง ประสบการณ์แห่งความเชื่อส่วนตัวของพระนาง  นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับเราแต่ละคนด้วย และสำหรับคริสตชนทุกคน  กล่าวคือ  ความเชื่อ บรรจุความจำส่วนตัวของเราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพระเจ้ากับเรา จำที่เราพบปะพระเจ้าผู้ทรงเริ่มก้าวแรกเสมอ  ผู้สร้างสรรค์ ผู้ช่วยให้รอด  และเปลี่ยนแปลงเรา   ความเชื่อคือการจำพระวาจาของพระองค์ที่ทำให้ดวงใจของเราอบอุ่น  และจำกิจการช่วยไถ่กู้ของพระองค์ซึ่งให้ชีวิต ทำให้เราบริสุทธิ์  เอาใจใส่ดูแล  และเสริมกำลังเรา
 
ครูคำสอน คือ คริสตชนผู้ที่จำพระเจ้าได้ และช่วยประกาศออกไป ไม่ถือว่าตนสำคัญ ไม่พูดเกี่ยวกับตนเอง  แต่พูดเกี่ยวกับพระเจ้า  พูดเกี่ยวกับความรัก และความซื่อสัตย์ของพระองค์ พูด  และถ่ายทอดทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงเผยแสดง เช่น คำสอนของพระคริสตเจ้า คำสอนของพระศาสนจักรทั้งครบ โดยไม่เพิ่มหรือตัดทอนอะไรออกไป”

นักบุญเปาโลอ้างสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษแก่ศิษย์และผู้ร่วมงาน คือ ทิโมธี จงระลึกถึงพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย... ตามข่าวดีที่ข้าพเจ้าประกาศ  และข้าพเจ้าจึงต้องทนทุกข์ (เทียบ 2 ทธ 2: 8-9) นักบุญเปาโลสามารถพูดเช่นนี้  เพราะว่าท่านระลึกถึงพระคริสตเจ้า ผู้ได้เรียกท่าน  เมื่อท่านกำลังเบียดเบียนบรรดาคริสตชน  พระองค์สัมผัสท่าน (เปาโล) และได้เปลี่ยนใจท่านโดยอาศัยพระหรรษทาน

ดังนั้น  ครูคำสอน คือ คริสตชนผู้สนใจพระเจ้า การระลึกถึงพระเจ้านำเขาในชีวิต และครูคำสอนเป็นผู้ที่ปลุกการระลึกถึงพระเจ้าในหัวใจของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องง่าย มันเกี่ยวข้องกับฐานะเป็นอยู่ทั้งหมด  คือหนังสือคำสอน หากไม่ระลึกถึงพระเจ้า  ระลึกถึงงานของพระองค์ในประวัติศาสตร์  และนำเราให้ไปพบพระคริสตเจ้าปัจจุบันในพระวาจา  ในศีลศักดิ์สิทธิ์ ในพระศาสนจักร  และความรักของพระองค์    ครูคำสอนที่รัก พ่อขอถามลูก  เราจำพระเจ้าจริงๆ ไหม เราเป็นเหมือนระฆังที่ปลุกคนอื่นให้จำพระเจ้า  ทำให้ดวงใจอบอุ่นไหม “วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่มีความสะดวกสบายอยู่ในศิโยน” เราต้องทำอะไร  มิให้มีความสะดวกสบาย  คือ ผู้ที่หาความมั่นคง  และสิ่งของให้ตนเอง  แต่เป็นชาย – หญิง ที่จดจำพระเจ้า นักบุญเปาโลเขียนถึงทิโมธี  ให้ข้อแนะนำบางประการ  ซึ่งเป็นแนวทางแก่เราในการทำงานฐานะครูคำสอน  “จงมุ่งหน้าหาความชอบธรรม ความเคารพรักพระเจ้า ความเชื่อ  ความรัก ความอดทน และความอ่อนโยน” (1 ทธ 6: 11)

ครูคำสอน คือ บรรดาชาย – หญิง ที่จดจำพระเจ้า ถ้าพวกเขามีความสัมพันธ์สม่ำเสมอและมีชีวิตกับพระองค์  และกับเพื่อนบ้าน  ถ้าพวกเขาเป็นบุรุษและสตรีแห่งความเชื่อ ผู้วางใจในพระเจ้าจริงๆ และมอบความมั่นคงในพระองค์  ถ้าพวกเขาเป็นบุรุษและสตรีแห่งความรัก  เมตตา  ผู้เห็นผู้อื่นเป็นพี่ชาย – หญิง  ถ้าพวกเขาเป็นบุรุษและสตรีแห่งความพากเพียรอดทน สามารถเผชิญความยากลำบาก  การทดลอง  และความล้มเหลว ด้วยความสงบ  และความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าพวกเขาสุภาพ สามารถเข้าใจชีวิตและมีเมตตา

ให้เราอธิษฐานขอพระเจ้า เพื่อเราจะได้เป็นบุรุษและสตรีผู้จดจำพระเจ้าที่มีชีวิตในเราเอง  และสามารถปลุกผู้อื่นให้จดจำพระเจ้าได้ในดวงใจของพวกเขา อาเมน

13 ธันวาคม ค.ศ. 2013พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์  แปล

Home

คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม
อาคารเลขที่ 122/11 ซ.นนทรี 14 (ซ.นาคสุวรรณ)  ถ.นนทรี  ยานนาวา  กรุงเทพฯ 10120