ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของการประชุมสภาสังคายนาวาติกันที่ 2  ที่ได้ออกสมณกฤษฎีกา งานธรรมทูตแห่งพระศาสนจักร (Ad gentes – 7 ธันวาคม ค.ศ.1965)  สมเด็จพระสั นตะปาปาประกาศสมัชชาพระสังฆราช ครั้งที่ 19  ระหว่าง 30 พ.ย. – 2 ธ.ค. 2015 ที่กรุงโรม หัวข้อ ความตระหนักของพระศาสนจักรและพันธกิจสู่ปวงชน : การบริการของสมณ กระทรวงเพื่อการประกาศพระวรสารสู่ปวงชน (Missio ad gentes) : พระศาสนจักรเป็นเครื่องหมายและเครื่องมือแห่งความรอดพ้น

คริสตชนทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ  ในฐานะเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร  มีหน้าที่แบ่งป ันพระพรของพระจิตเจ้า มีหน้าที่ประกาศข่าวดีแห่งพระวรสาร  พัฒนามนุษย์ทุกคน  ทั้งชาย หญิง และเด็ก  ทั้งด้านจิตวิญญาณ ด้านศีลธรรม  เพื่อให้เกิดความผาสุก การสมานฉันท์และยกฐานะศักดิ์ศรีมนุษย์

สมัย 50 ปีที่ผ่านมา  ประชากรโลกมีสามพันล้านคน  สองพันล้านคนไม่รู้จักพระคริสตเจ้า ทุกวันนี้มีประชากรเจ็ดพันล้าน  4.5 พันล้านคนไม่รู้จักพระคริสตเจ้า  เปรียบกับ 50 ปีที่ผ่านมา จำนวนธรรมทูต มีกำเนิดมาจากตะวันตกกำลังลดลง  ตรงกันข้าม กระแสเรียกธรรมทูตจากทวีปเอเชีย อาฟริกา  และลาตินอเมริกากำลังเพิ่มขึ้น อันที่จริงพระสงฆ์ส่วนใหญ่กลายเป็นชนเผ่า และมีการประกาศพระวรสารเป็นภาษาท้องถิ่น ด้านพิธีกรรมและ การสอนคำสอนได้รับการส่งเสริม มีประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับนักบวช การอบรมฆราวาส  พระสงฆ์  และนักบวช เพิ่มจำนวนขึ้น การปรับความเชื่อเข้าในวัฒนธรรมได้รับการสนใจยิ่งขึ้น

พระศาสนจักรใหม่ๆ กำลังเติบโตอย่างมีชีวิตชีวา แม้จะขาดแคลนพระสงฆ์  ขาดแคลนทรัพยากร   พระศาสนจักรสากลพยายามช่วยเหลือพัฒ นางานธรรมทูตของพระศาสนจักรท้องถิ่นเหล่านี้ ในทางตรงกันข้าม  งานธรรมทูตของพระศาสนจักรดั้งเดิมมีแนวโน้มลดลง หรือ อ่อนแอ

ความตระหนักของพระศาสนจักร
เราตระหนักว่าพระศาสนจักรเติบโตอาศัยการอธิษฐานภาวนา การไตร่ตรอง  การเป็นประจักษ์พยาน และการเทศน์  ทั้งนี้เป็นผลของประสบการณ์พบปะกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ  ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม

พระศาสนจักรท้องถิ่นซึ่งควรไตร่ตรองถึงพระศาสนจักรสากล ตระหนักถึงการถูกส่งไปหาผู้ไม่เชื่อในพระคริสตเจ้า  ร่วมมือกับบุคคลในพื้นท ี่เดียวกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายที่ทำให้พระคริสตเจ้าประทับอยู่เพื่อพวกเขา  โดยอาศัยการเป็นประจักษ์พยานของสัตบุรุษแต่ละคนและของช ุมชนทั้งมวล  แม้พระเจ้าสามารถนำพาประชากรมาสู่ความเชื่อ อย่างไรก็ตามเป็นความรับผิดชอบ  และเป็นสิทธิของพระศาสนจักรที่จะประกาศพระวรสาร งานธรรมทูตจึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็นตลอดกาล

หน้าที่ของสมณกระทรวงเพื่อการประกาศพระวรสารสู่ปวงชน คือ ต้องนำและประสานงานการประกาศพระวรสาร รวมทั้งการร่วมมือด้านธรรมทูตด้วย

วัตถุประสงค์ของสมัชชาครั้งน ี้ เพื่อไตร่ตรองความสัมพันธ์ระหว่างความตระหนักเรื่องพระศาสนจักรกับพันธกิจสู่ปวงชน ภายในพระศา สนจักรใหม่ๆ เป็นพิเศษ  จึงขอรายงานจากพระศาสนจักรท้องถิ่น  เพื่อเป็นการประเมินตนเอง  และช่วยให้สมณกระทรวงสามารถบริการพระศาสนจักรใหม่ๆ ได้อย่างเหมาะสมที่สุด

Home