น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Oils) คือ  น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ 3 ประการที่ใช้ในพิธีกรรมในพระศาสนจักร คือ
น้ำมันคริสมา ( SC-Sanctum Chrisma) ซึ่งมาจากน้ำมันมะกอกและ Balzan (ยางหอม)  (ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6)
น้ำมันสำหรับผู้ป่วย (OI-Oleum Infirmorum) มาจากน้ำมันมะกอก (ตั้งแต่ศตวรรษแรกๆ)
น้ำมันสำหรับ (ผู้เตรียมเป็นคริสตชน) ศีลล้างบาป (OC/OS - Oleum Catechumenorum)

ในพระคัมภีร์
- ใช้น้ำมันปรุงอาหาร (กดว 11 : 8) เป็นเชื้อเพลิงสำหรับตะเกียง  (มธ 25)
- ใช้รักษาแผล  (ลก 10 : 34)  และบ่อยๆ ใช้เจิมกษัตริย์  พระสงฆ์ ประกาศก   
(สภาสังคายนาแห่งเตรนท์)  พระเยซูตั้งศีลเจิมผู้ป่วย ซึ่งนักบุญยากอบ บทที่ 5:14 สอนไว้ “ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโสของพระศาสนจักรมาอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ป่วย เจิมน้ำมันผู้นั้นในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
- ใช้เจิมศีรษะของแขกผู้มาเยี่ยม  (ลก 7:46)
- มีการใช้น้ำมันเจิมสำหรับชโลมศพ (มก 16:1)
- มีการใช้น้ำมันแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

สดุดี 133 : 1-2  “พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  ก็เป็นการดีและน่าชื่นใจมากสักเท่าใด เหมือนน้ำมันประเสริฐอยู่บนศีรษะ ไหลอาบลงมาบนหนวดเคราของอาโรน ไหลอาบลงมาบนคอเสื้อของท่าน”

- และการรับพระจิตเจ้า  1 ยอห์น 2:20  “ท่านทั้งหลายได้รับการเจิมจากองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์และทุกคนต่างได้รับความรู้”

พระศาสนจักรใช้น้ำมันศักดิ์สิทธิ์คริสมา ในศีลล้างบาป และศีลกำลัง  ศีลบวช  การอภิเษกวัด  เสกถ้วยกาลิกส์  เสกระฆัง
พระสังฆราชเป็นผู้เสกน้ำมันในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์  ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 6

ความหมายของน้ำมันศักดิ์สิทธิ์

ในทุกยุค บ่อยครั้ง มนุษย์ทั้งชายและหญิงใช้น้ำหอมและขี้ผึ้ง พระคัมภีร์กล่าวถึงน้ำมันเป็นเครื่องหมายของความชื่นชมยินดีที่ทำให้ใบหน้าฉายแสงได้  (สดด. 104.15)

การเจิมด้วยน้ำมัน  เป็นเครื่องหมายถึงการที่พระเจ้าเลือกสรรแต่งตั้งบุคคลให้มีบทบาทเป็นกษัตริย์ พระสงฆ์หรือประกาศก วัตถุและอาคารได้รับการเสกด้วยน้ำ ตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ของผู้ที่ได้รับเจิม คือ พระเมสสิยาห์หรือพระคริสต์เป็นตัวอย่าง   สองคำ ในภาษาฮีบรูและภาษากรีก สำหรับพระเยซูคือ กษัตริย์ สมณะชั้นสูงและประกาศก ดังในบทเพลงสดุดีกล่าวว่า    "พระองค์ทรงรักความชอบธรรม และทรงเกลียดความอธรรม ฉะนั้น พระเจ้าคือพระเจ้าของพระองค์ท่านได้ทรงเจิมพระองค์ท่านไว้ด้วยน้ำมันแห่งความยินดียิ่งกว่าพระสหายทั้งปวงของพระองค์ท่าน (สดด. 45.7)

น้ำมันคือเครื่องหมายของความชื่นชมยินดีและความงดงาม   ของการทำให้ศักดิ์สิทธิ์ แต่น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นขี้ผึ้ง (น้ำมันที่เรากำลังกล่าวถึง) ซึ่งบรรเทาความเจ็บปวดและเพิ่มกำลังให้นักมวยปล้ำ ทำให้พวกเขาหายเจ็บปวด  จากเครื่องหมายต่าง ๆ นี้ 
พระศาสนจักรกล่าวถึงน้ำมัน 3  ชนิด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นน้ำมันศักดิ์สิทธิ์

1)
น้ำมันสำหรับผู้เตรียมเป็นคริสตชน ให้พลังแห่งพระจิตแก่ผู้ที่จะรับศีลล้างบาปและกลายเป็นนักสู้ของพระคริสตเจ้าในการต่อต้านความชั่ว

2)
น้ำมันสำหรับเจิมผู้ป่วย คือเครื่องหมายแสดงภายนอก (สาร) ที่ใช้สำหรับศีลเจิมคนป่วย โดยเจิมคนป่วยเหมือนเป็นขี้ผึ้ง ที่หน้าผากและที่ฝ่ามือ เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยด้วยการประทับอยู่ของพระจิต

3)
น้ำมันคริสมา คือ น้ำมันหอมที่ใช้สำหรับเจิมเพื่อทำให้ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากรับศีลล้างบาป มีการเจิมน้ำมันที่ศีรษะของบุตรคนใหม่ของพระเจ้า    ระหว่างพิธีศีลกำลัง   มีการทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าผาก ระหว่างการบวชพระสังฆราช มีการเจิมน้ำมันที่ศีรษะของพระสังฆราชใหม่ เช่นเดียวกัน มีการเจิมน้ำมันที่มือของพระสงฆ์บวชใหม่ ระหว่างการอภิเษกวัดและพระแท่น มีการเจิมน้ำมันที่กางเขนและโต๊ะที่จะใช้เป็นพระแท่น ในโอกาสเหล่านี้  การเจิมด้วยน้ำมันคริสมา หมายถึง  กิจการของพระจิตเพื่อครอบครองสิ่งของตามพันธกิจหรือหน้าที่ของสิ่งนั้น ๆ

ระหว่างมิสซาเพื่อประกอบพิธีเสกน้ำมันในเช้าวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์   พระสังฆราชจะเสกน้ำมันสำหรับผู้เตรียมเป็นคริสตชนและน้ำมันสำหรับเจิมป่วยก่อนเสกน้ำมันคริสมา  พระสงฆ์ที่ร่วมพิธีมิสซาจะกางมือออกระหว่างการเสกน้ำมันคริสมา จะเก็บน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในโถเงินหรือโถทอง  หรือขวดสำหรับวางบนพระแท่นที่มีฝารูปกางเขนเล็ก ๆ ปิดอยู่

ที่มา : ข้อเขียนจากพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์