วันสิ่งแวดล้อมโลกเป็นเหตุการณ์ประจำปี จัดทุกวันที่ 5 มิถุนายน  เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ส่ง ‘ทวีต’ ในสื่อออนไลน์ โอกาสนี้ว่า “สิ่งแวดล้อมเป็นความดีส่วนรวม  เป็นมรดกของมนุษยชาติ  และเป็นความรับผิดชอบของทุกคน”

ประธานาธิบดีโดนัลล์  ทรัมพ์  มิได้สนใจคำของสมเด็จพระสันตะปาปา  เพราะวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2017  สหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจถอนตัวจากข้อตกลงปารีส เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม (Climate Change)

สมาชิก 195 ประเทศ ได้เซนต์ข้อตกลงจะพยายามลดอุณหภูมิของโลก
อดีตผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค ไมเคิล บลูมเบิร์ก ทูตพิเศษของสหประชาชาติได้กล่าวว่า “แม้ท่านประธานาธิบดีสหรัฐได้ตัดสินใจเช่นนั้น แต่ชาวสหรัฐจะพยายามทำตามข้อตกลงปารีส โดยผ่านทางพันธมิตรระหว่างเมือง รัฐ  และธุรกิจต่างๆ  เราจะแสวงหาทางปฏิบัติตามกระบวนการข้อตกลงปารีส” เขาได้ไปพบประธานาธิบดีของฝรั่งเศส  นายเอมมานูเอล มาครง  ที่ปารีส  เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน  เขาสัญญาจะรวบรวมเงิน 15 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 525 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนความพยายามต่างๆ ของสหประชาชาติ  ที่จะต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม

นายบลูมเบิร์กกล่าวว่า “การป้องกันเป็นการรักษาที่ดีที่สุด และชาวอเมริกาส่วนใหญ่เชื่อว่า  เราต้องร่วมมือกันเรื่องนี้  สหรัฐเป็นประเทศใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก  ดังนั้นเราต้องมีส่วนรับผิดชอบเป็นพิเศษ  เราต้องใส่ใจ  เพราะหากเราไม่สนใจ  เราเองจะรับผลเสีย คือ สุขภาพแย่ลง  ว่างงาน และเศรษฐกิจแย่ลง รัฐบาลอเมริกาอาจถอนตัวจากข้อตกลงนี้  แต่ชาวอเมริกันจะยังคงรักษาสัญญาและทำให้บรรลุเป้าหมาย”

บรรดาผู้ว่าการเมืองต่างๆ มากกว่า 200 แห่ง  อย่างน้อย 10 รัฐ ยืนยันจะปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส หลายคนร่วมมือกับผู้ว่าฯ แอนดรูว์ คัวโม  ของนิวยอร์ค  เจอร์รี่ บราวน์ ของแคลิฟอร์เนีย  และเจย์ อินสลี ของวอชิงตัน  ทั้งสามรัฐมีผลผลิตภายในประเทศถึงร้อยละ 20 ร่วมเป็นพันธมิตรสภาพอากาศของสหรัฐ

อีกกลุ่มหนึ่งเรียกตนเองว่า “Climate Mayors” ยืนยันว่า  เราจะเพิ่มภาระการลงทุนพลังงานฟื้นฟู และพลังงานให้มีประสิทธิภาพ เราจะซื้อรถไฟฟ้า เราจะพยายามลดก๊าซเรือนกระจก  สร้างพลังงานเศรษฐกิจที่สะอาด  และอยู่ฝ่ายยุติธรรมทางสภาพแวดล้อม
บรรดานักวิทยาศาสตร์เตือนว่า  ถ้าเราร่วมมือกันไม่ได้  จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น (เพราะโลกร้อนขึ้น) ระบบอากาศเปลี่ยนแปลง น้ำท่วม  และแล้งกันดาร ผลที่ตามมาคือ เราจะดำรงชีวิตยากขึ้น  ขาดอาหาร  ขาดน้ำ  มีไฟป่า ฯลฯ ทั้งหมดจะทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการอพยพรุนแรง

L’Osservatore Romano, 9 มิถุนายน 2017
ฉบับที่ 23 หน้า 12.