คำสอน 5 นาที - หมวดพระบัญญัติ

เพราะอะไรถึงควรสวดมนต์

         วันหนึ่งผมฟังรายการวิทยุพูดถึงงานวิจัยของแพทย์ชาวอเมริกัน  ชื่อคุณหมอลารี่ ด๊อซซี่  ได้รวบรวมและค้นคว้าเรื่องการสวดมนต์ พบว่ามีงานวิจัยทางการแพทย์มากกว่า 130 เรื่อง นับถึงปี ค.ศ. 1996 ที่สนับสนุนว่า  การสวดมนต์นั้นให้ผลดีกับสุขภาพของคนไข้ได้จริง
         นายแพทย์วิธาน  ฐานะวุฑฒ์ เรียบเรียงข้อมูลและคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย  ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์แบบใหม่  สำนักพิมพ์สยามกรุงเทพฯ (มกราคม พ.ศ.2548)
         ตัวอย่างคุณหมอโรคหัวใจชื่อ แรนดอฟ เบิร์ด ทำวิจัยตั้งแต่ปี ค.ศ.1988 ในคนไข้โรคหัวใจขาดเลือด 393 คน ที่โรงพยาบาลซานฟรานซิสโก  สหรัฐอเมริกา  โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 192 คน  มีกลุ่มคริสต์สวดให้ กลุ่มที่สอง 201 คน ไม่มีใครสวดให้
         ผ่านไป 10 เดือน  พบว่าคนไข้กลุ่มแรกใช้ยาน้อยกว่ากลุ่มสอง 5 เท่า  เกิดภาวะแทรกซ้อนในเรื่องน้ำท่วมปอดน้อยกว่า 3 เท่า ถูกใส่ท่อช่วยหายใจน้อยกว่า 12 เท่า ผลการทดลองครั้งนี้มีนัยสำคัญทางสถิติที่เชื่อถือได้ว่า  ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
         ส่วนตัวแล้วผมเห็นว่าเรื่องนี้สนับสนุนคำสอนในศาสนาต่างๆ และของพระศาสนจักรของเราที่สอนให้ภาวนา ให้ร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ  ให้สวดสายประคำ  รำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า (มรรคาศักดิ์สิทธิ์) ฯลฯ   แต่ให้เรายอมรับพระประสงค์ของพระเป็นเจ้ามิใช่วอนของตามใจเรา
         เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลา 40 วัน (ประมาณ 5 สัปดาห์) ก่อนเทศกาลปัสกามีลักษณะสำคัญ 2 ประการ คือ
1. เตือนให้คิดถึงศีลล้างบาปของเราหรือเป็นการเตรียมตัวผู้ปรารถนารับศีลล้างบาป ซึ่งในวันอาทิตย์แรกของมหาพรตจะมีพิธีเลือกสรร
2. เตือนใจให้เป็นทุกข์ถึงบาป ทำพลีกรรม  ใช้โทษบาป เราจึงควรสอนลูกสอนนักเรียนให้ใส่ใจอ่านพระคัมภีร์ ฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้า  อธิษฐานภาวนา  บำเพ็ญกิจเมตตาปรานีต่อผู้ยากไร้มากยิ่งขึ้น
         ข้อกำหนดเรื่อง การจำศีลในเทศกาลมหาพรต (จากปฏิทินคาทอลิก 2005 หน้า VII) มีกล่าวว่า "ทุกวันศุกร์ตลอดปีและทุกวันในเทศกาลมหาพรตเป็นวันพลีกรรม"
         ทุกวันศุกร์ตลอดปี  ยกเว้นวันฉลองใหญ่เป็นวันอดเนื้อหรืออาหารอื่นตามข้อกำหนดขอสภาพระสังฆราชฯ วันพุธรับเถ้าและวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เป็นวันอดเนื้อและอดอาหาร
         การอดเนื้อ ผู้ที่ได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งตามกำหนดนี้ ถือว่าได้ถือตามกฎการอดเนื้อ คือ ก.) อดเนื้อ  ข.) ปฏิบัติกิจศรัทธานอกเหนือจากที่เคยปฏิบัติเช่น เดินรูป 14 ภาค  เฝ้าศีลมหาสนิท  สวดสายประคำ ฯลฯ ง.) งดเว้นการดื่มสุรา  เบียร์  บุหรี่  จ.) รู้จักอดออมและละเว้นความฟุ้งเฟ้อต่างๆ
         การอดอาหาร หมายถึงการรับประทานอาหารอิ่มเพียงมื้อเดียว คริสตชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปต้องอดเนื้อ  คริสตชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปจนถึง 59 ปีบริบูรณ์ต้องอดอาหาร
         เป็นหน้าที่ของผู้อภิบาลและบิดามารดา  ต้องอบรมผู้น้อยที่ยังไม่ต้องถือกฎเหล่านี้ให้เข้าใจเจตนาของการพลีกรรม  สำหรับวันพุธรับเถ้าปีนี้ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ วันตรุษจีนสำหรับชาวจีน การอดเนื้อและอดอาหารในวันพุธรับเถ้าจึงสามารถเลื่อนไปวันอื่นตามที่พระสังฆราชท้องถิ่นประกาศ

(อุดมสารรายสัปดาห์ ฉบับที่ 6, 6-12 กุมภาพันธ์ 2005)

HOME