คำสอน 5 นาที - หมวดบทความ

ทำไมจึงเกิดเรื่องเช่นนี้

       จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์ในพื้นที่ชายฝังทะเลอันดามัน 6 จังหวัดภาคใต้ของไทยและอีกบางประเทศ  เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.2004  ส่งผลให้มีคนตาย บาดเจ็บและสูญหายจำนวนมาก ก่อให้เกิดความวิปโยคอันใหญ่หลวง  ทำให้บางคนอาจถามว่าทำไมพระเป็นเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดเรื่องเช่นนี้  ทั้งๆ ที่ศาสนาคริสต์สอนว่าพระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรักและเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์
         พระเป็นเจ้าทรงเป็นผู้ทรงสรรพานุภาพ สร้างโลกให้มีระเบียบและทุกสิ่งล้วนดีทั้งสิ้น พระองค์คอยดูแลสิ่งสร้างแต่ก็มีความชั่วร้ายและภัยพิบัติในโลก เราไม่ควรรีบตอบหรือไม่ควรมองสั้นๆ  ควรมองไกลๆ และมองในแง่ดีในมุมมองศาสนานะครับว่ามีอะไรด้านดีบ้างจากเหตุการณ์ร้ายนี้
         ธรรมชาติสวยงามดีทั้งสิ้น บาปน่าเกลียด ความเห็นแก่ตัว การเอาเปรียบคนเป็นสิ่งน่ารังเกียจ  แต่พระเป็นเจ้าทรงรักและเพียรทน  ทรงส่งพระบุตรมารับเอาสภาพมนุษย์เพื่อไถ่บาป  กล่าวคือเพื่อช่วยและสอนมนุษย์ให้รู้หนทางสู่สันติสุขแท้
         ในคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  กล่าวถึงพระญาณที่เอื้ออาทรและความน่าอดสูแห่งความชั่วร้าย (ข้อ 309-314) ว่าพระเจ้าทรงปรารถนาสร้างโลกอย่างอิสระในสภาพที่กำลังดำเนินไปสู่ความสมบูรณ์พร้อมขั้นสุดท้าย ในแผนการของพระประกอบด้วยการปรากฏตัวของบางสิ่ง  การหายไปของบางสิ่งพร้อมด้วยการก่อตัวของธรรมชาติและการทำลายด้วย  ดังนั้นพร้อมๆ กับความดีเชิงกายภาพ จึงมีความร้ายเชิงกายภาพอยู่ด้วยตราบที่สิ่งสร้างยังไม่ถึงสภาพสมบูรณ์พร้อม
         พระเป็นเจ้าทรงอนุญาตให้ความชั่วร้ายเกิดขึ้นโดยเคารพต่อเสรีภาพของสิ่งสร้างที่พระองค์ทรงสร้าง  และทรงรู้วิธีที่จะดึงความดีออกมาจากความร้ายนั้น
         ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป เราจะสามารถค้นพบว่าอาศัยพระญาณเอื้ออาทรอันทรงสรรพานุภาพ  ทรงสามารถดึงเอาสิ่งดีออกมาจากผลที่สืบเนื่องมาจากความชั่วร้าย  แม้ในเชิงจริยธรรมซึ่งเกิดขึ้นเพราะสิ่งสร้างของพระองค์ ตัวอย่างเช่นเรื่องโยเซฟในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ถูกพวกพี่ขายไปเป็นทาสในอียิปต์ ในที่สุดไปเป็นใหญ่และช่วยครอบครัวให้รอดจากความอดอยาก (เทียบ ปฐก 45)
         ในพันธสัญญาใหม่  พระเยซูทรงถ่อมพระองค์มาช่วยเรา  แต่ถูกศิษย์ทรยศรับทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์บนกางเขนและกลับคืนชีพ  พระองค์ทรงพิชิตความชั่วร้าย พิชิตบาป และความตาย ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย  "พระคริสตเจ้าทรงเป็นทั้งพระอานุภาพและพระปรีชาญาณของพระเจ้า  เพราะความโง่เขลาของพระเจ้ายังฉลาดยิ่งกว่าปรีชาญาณของมนุษย์  และความอ่อนแอของพระเจ้ายังเข้มแข็งกว่าพละกำลังของมนุษย์" (1คร 1:25)
         "พระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใด" (อฟ 1:19)
         "เรารู้ว่าพระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์  ผู้ที่ทรงเรียกมาตามพระประสงค์ของพระองค์" (รม 8:28)
         ในช่วงที่ผ่านมาเราอาจสัมผัสได้ว่า  คนเราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่  แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้  เราเห็นคนไทยมีน้ำใจ ช่วยเหลือ  แบ่งปัน ชาวต่างชาติก็เช่นเดียวกัน  ผมไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย
         น้ำใจมีคุณค่ามีพลังมหาศาลมากกว่า สึนามิ ครับ

(อุดมสารรายสัปดาห์ ฉบับที่ 3, 16-22 มกราคม 2005)

HOME