|   
 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ทรงออกสมณลิขิตเตือนใจชื่อ  จงชื่นชมยินดีเถ
                    ิด (มธ 5:12) Gaudete et Exultate เรื่อง การเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในโลกปัจจุบัน  เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 2018  หกภาษา คือ เยอรมัน อังกฤ
                    ษ  สเปน  ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน และโปร์ตุเกส   ไม่ใช่เอกสารแบบวิชาการ หรือ ข้อความเชื่อ  เป้าหมายคือ เสนอการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในแง่ปฏิบัติสำหรับยุคของเรานี้ มี 5 บท คือ
 1.การเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์
                     (ข้อ 3-34)
 นักบุญ (ผู้ศักดิ์สิทธิ์) มีหลายแบบ  กล่าวคือ นอกจากที่พระศาสนจักรรับรองเป็นทางการแล้ว  ยังมีประชาชนธรรมดามากมายในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง  รวม
                    ทั้งบรรดาคริสตชนที่เป็นมรณสักขี  ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้ถูกทอดทิ้ง  คนจน  มีความรักที่เสียสละตนเอง  เพื่อสร้างอาณาจักรแห่งความยุติธรรม  ความรัก  และสันติสากล  ทั้งสัตบุรุษ  พระสงฆ์  และนักบวช
 
 2.ศัตรู 2 ประการของความศักดิ์สิทธิ์ (ข้อ 35-62)
 Gnosticism  ลัทธินอสติก  และ Pelagianism  เป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง คือ  ลัทธินอสติกคิดว่าความครบครันวัดกันด้วยกิจเมตตา  ไม่ใช่การให้ข้อมู
                    ลหรือความรู้  การแยกสติปัญญาจากเนื้อหนัง  เป็นการลดคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ถูกต้อง คือ ปรีชาญาณคริสตชนแท้ต้องมีกิจเมตตาด้วย
 
 
 Pelagianism เน้นเจตนาของมนุษย์  แต่ชีวิตจริงมนุษย์ก็อ่อนแอ  เรามีพระหรรษทานช่วยเหลือด้วย
 
 3.ในแสงสว่างของพระอาจารย์ (ข้อ 63-109)
 ความสุขแท้ (The Beatitudes) ของพระเยซูเจ้าเป็นหนทาง 8 ประการสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตประจำวัน คือ
   ผู้มีใจยากจน
   ผู้มีใจอ่อนโยน
   ผู้ร่วมทุกข์กับผู้อื่น
   ผู้หิวกระหายความชอบธรรม
   ผู้เห็นและปฏิบัติความเมตตา
   ผู้รักษาหัวใจให้อิสระจากสิ่งที่ทำให้ความรักเสื่อมเสีย
   ผู้หว่านสันติรอบตัวเรา
   ผู้ยอมรับวิถีทางแห่งพระวรสารแม้ทำให้เกิดปัญหา (เทียบ มธ 5:3-10)
 เราต้องปฏิบัติกิจเมตตา (ตาม มธ 25:31-46)  ต้องไม่ใช่แบบผิวเผิน  แบบโลกียะ  เราต้องปกป้องเด็กที่ยังมิได้เกิด  เขามีศักดิ์ศรีมนุษย์  คน
                    ชรา  ผู้ป่วย  ตลอดจนเหยื่อของการค้ามนุษย์  และรูปแบบใหม่ของการค้าทาส
 
 4.เครื่องหมายของความศักดิ์สิทธิ์ในโลกปัจจุบัน (ข้อ 110-157)
 1.ความเพียร  ความอดทน  และความอ่อนโยน
                      เป็นพละกำลังภายใน  โดยมีพระเจ้าเป็นหลัก  ให้กระทำดีอย่างสม่ำเสมอ  ต่อสู้ความรุนแรง  ทางคำพูดในอินเตอร์เน็ต  และสื่อสารดิจิตัล  อย่าโกหก  หยาบคายต่อใคร  อย่าตัดสิน  อย่าดูถูกคน
 2.
                    ชื่นชมยินดีและมีอารมณ์ดี มองโลกแง่ดี  ความเศร้าเป็นเครื่องหมายของความอกตัญญูต่อพระพรที่พระเจ้าทรงมอบให้
 3.ความกล้าและความกระตือรือร้น
                    ในการประกาศข่าวดี  กล้าออกไปที่ชายขอบ  ผู้ที่กำลังเดือดร้อน  และสิ้นหวัง  ไม่ใช่ทำตามหน้าที่  พระศาสนจักรต้องการธรรมทูตที่กระตือรือร้น
 4.ในชุมชน
                      ความศักดิ์สิทธิ์เป็นการก้าวเดินที่มีชีวิต  เติบโตออกผลในชุมชน  ในพิธีบูชาขอบพระคุณ มีมิตรภาพ  และเป็นชุมชนธรรมทูต  สนใจติดตามผู้หลงทาง
 5.อธิษฐานสม่ำเสมอ
                      มีเวลากับพระอาจารย์  ฟังพระวาจาและเรียนรู้จากพระองค์เสมอ  ภาวนาวอนขอเพื่อเพื่อนบ้านด้วยความไว้วางใจ
 
 5. การต่อสู้ด้านจิตวิญญาณ  เราต้องตื่นเฝ้าและรู้จักไตร่ตรองแยกแยะ (ข้อ 158-177)
 ความชั่วร้ายมีอยู่ในพระคัมภีร์หน้าแรกก็บอกเรา ฉะนั้นเราต้องต่อสู้กับมันโดยอาศัยการอธิษฐานภาวนา  พระวาจาของพระเจ้า  การร่วมมิสซา  การรับศีลอภัยบาป  กิจเมตตา ฯลฯ
 
 การดำเนินชีวิตสู่ความศักดิ์สิทธิ์จะทำให้เกิดสันติสุขและความปีติยินดีในพระจิตเจ้า  เราต้องฝึกไตร่ตรองแยกแยะ  รู้จักฟังพระเจ้า  ฟังผู้อื่
                    น  พ่อขอให้สำรวจมโนธรรมทุกวัน  ด้วยความจริงใจกับพระเจ้า  เชื่อฟังพระวรสารและคำสอนของพระศาสนจักร  เช่นนี้เราจึงแบ่งปันความสุขที่โลกไม่สามารถพรากจากเราได้
 
 โรม 19 มีนาคม ค.ศ. 2018
 
 |