พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ค.ศ. 2015  ให้ฝ่ายอภิบาลรับผิดชอบ  สถาบันพัฒนาคริสตชนฆราวาส (กฤษฎีกาฯ ข้อ 37)
พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์  เกรียงศักดิ์  โกวิทวาณิช  ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ  เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2016  คือ บาทหลวง ปิยะชาติ  มะกรครรภ์ (ประธาน)  บาทหลวง วัชศิลป์  กฤษเจริญ  บาทหลวง ชีวิน  สุวดินทร์กูล  บาทหลวง คมทวน  สุขสุทิพย์ (TMS)  คุณประจวบ  ตรีนิกร และคุณนิทัศน์  นวชาติโฆษิต

ฝ่ายอภิบาลได้จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากบรรดาผู้รับผิดชอบงานของสภาพระสังฆราชฯ  จำนวน 21 คน เมื่อ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2016  ที่บ้านผู้หว่าน มีความคิดเห็นหลายหลาก  คณะกรรมการเฉพาะกิจได้เห็นว่าควรเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง  ได้แก่  บรรดาพระสงฆ์ 226 องค์ และผู้นำฆราวาสจากทั้ง 10 สังฆมณฑล 400 คน ในระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม ค.ศ. 2016  โดยได้ร่วมมือกับวิทยาลัยแสงธรรมจัดทำแบบสอบถาม

ในวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2017 บาทหลวง วัชศิลป์ กฤษเจริญ ได้รายงานต่อสภาพระสังฆราชฯ สรุปได้ดังนี้
1.ลักษณะของสถาบันพัฒนาคริสตชนฆราวาส  ควรมีลักษณะเป็น “ศูนย์/คณะกรรมการประสานงาน  เป็นโครงสร้างหนึ่งของสภาฯ”
2.บทบาทหน้าที่
2.1ประสานงานสิ่งที่สังฆมณฑล  หน่วยงาน  องค์กร  ทำอยู่แล้ว  ให้ดีขึ้น
2.2เติมเต็มในส่วนที่ยังขาด เช่น คำสอนด้านสังคม คำสอนด้านธุรกิจ ฯลฯ
2.3จัดหาและใช้สื่อในการเผยแพร่... ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น เวปไซต์ของศูนย์ประสานงาน  โดยอาศัยบุคลากรเต็มเวลา
3.ทีมงาน เครือข่าย  เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ดำเนินการ  ขยายผล
3.1ระดับประเทศ อาศัยหน่วยงานที่มีอยู่แล้วของสภาฯ
3.2ระดับสังฆมณฑล และวัด ควรมีทีมงานรับผิดชอบ
4.กลุ่มเป้าหมาย-  เน้นพระสงฆ์และผู้นำฆราวาส
-ระดับวัด  เน้นวิถีชุมชนวัด (BEC)
ในการประชุมสามัญของสภาพระสังฆราชฯ  วันที่ 12-14 กันยายน ค.ศ. 2017  มีการติดตามความก้าวหน้าเรื่องนี้  และมีมติให้ตั้งกรรมการอำนวยการในระดับชาติ โดยฝ่ายอภิบาลดำเนินการ เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 คน ร่วมประชุมในวันอังคารที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2017  ที่สำนักมิสซังกรุงเทพฯ

เราพยายามสนับสนุนฆราวาสให้มีส่วนในงานด้านต่างๆ ของพระศาสนจักร  มีศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรม  วิทยาลัยแสงธรรม     ส่วนสถาบันพัฒนาคริสตชนฆราวาส จะไม่สร้างอาคารใดๆ แต่จะเน้นการประสานงาน ประชาสัมพันธ์  จัดหลักสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของท้องถิ่น  และพยายามหาทีมวิทยากรให้ โดยให้แผนกฆราวาสทุกสังฆมณฑลมีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อให้พันธกิจลงสู่ระดับสังฆมณฑลและเขตวัดเข้มแข็ง  และมีชีวิตชีวามากขึ้น

พระสังฆราช วีระ  อาภรณ์รัตน์